เส้นเลือดที่ปูดบริเวณหน้าอก: ปัญหาที่พบได้บ่อย สาเหตุ และแนวทางการรักษา

โดย | บทความเส้นเลือดขอด

เส้นเลือดที่ปูดบริเวณหน้าอก: ปัญหาที่พบได้บ่อย สาเหตุ และแนวทางการรักษา

.ดร.นพ. กิตติพันธุ์  ฤกษ์เกษม

Leg Vein Clinic Thailand

การมีเส้นเลือดปูดหรือเส้นเลือดฝอยที่เห็นชัดบริเวณหน้าอก เป็นสิ่งที่พบได้ไม่น้อย โดยเฉพาะในสุภาพสตรี แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่ก่ออันตรายร้ายแรง แต่ก็มักสร้างความกังวลใจและทำให้เสียความมั่นใจ เพราะหน้าอกถือเป็นจุดเด่นด้านความงามของผู้หญิง หลายคนถึงขั้นไม่กล้าใส่เสื้อเปิดไหล่หรือชุดว่ายน้ำ

รูปภาพแสดงเส้นเลือดปูดที่น่าอก

สิ่งสำคัญคือ เส้นเลือดที่หน้าอกอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ปัจจัยปกติทางกายวิภาคปกติไปจนถึงโรคที่ค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นการทำความเข้าใจสาเหตุและวิธีการรักษาจึงมีความจำเป็น

เส้นเลือดที่หน้าอกพบได้บ่อยแค่ไหน

ความจริงแล้ว การเห็นเส้นเลือดที่หน้าอก ไม่ใช่เรื่องแปลก ผู้หญิงที่ผิวบางหรือผิวขาวมักมองเห็นเส้นเลือดได้ชัดกว่า และในบางช่วงอายุหรือบางสภาวะ เช่น การตั้งครรภ์ การผอมลงอย่างรวดเร็ว หรือหลังผ่าตัดเสริมเต้านม ก็ยิ่งทำให้เส้นเลือดชัดขึ้น

แต่ในบางกรณี เส้นเลือดที่หน้าอกอาจเป็นสัญญาณเตือนถึง โรคหลอดเลือดดำลึกในช่องอกอุดตัน (central vein occlusion) ซึ่งเป็นภาวะทางการแพทย์ที่ต้องรักษาอย่างจริงจัง

สาเหตุของเส้นเลือดที่ปูดบริเวณหน้าอก

  1. โครงสร้างร่างกายและผิวหนังปกติ

ผู้ที่มีผิวขาวหรือผิวบาง จะมองเห็นเส้นเลือดได้ง่าย

คนที่ ไขมันใต้ผิวน้อย เช่น คนผอม หรือคนที่ออกกำลังกายมาก ทำให้เส้นเลือดปูดชัดขึ้น

มักไม่อันตราย แต่สร้างความรำคาญใจด้านความงาม

 

  1. เส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดขอดที่หน้าอก

เส้นเลือดฝอยคล้ายใยแมงมุม (spider veins) และ เส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก (telangiectasia) ทำให้เห็นเป็นเส้นเล็ก ๆ สีแดงหรือน้ำเงินบนหน้าอก

ภาพแสดงเส้นเลือเส้นเลือดปูดเขียวและเส้นเลือดฝอยที่หน้าอก

Varicose veins (เส้นเลือดขอดขนาดเล็ก) อาจคดเคี้ยวและปูดโปน แม้พบน้อยกว่าที่ขา แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ที่หน้าอก  ส่วนใหญ่ไม่อันตราย แต่ทำให้เสียความมั่นใจ

ภาพแสดงเส้นเลือดปูดเขียวเหมือนเส้นเลือดขอดขึ้นที่อกซ้าย

  1. ภาวะหลอดเลือดดำลึกในอกอุดตัน (Central Vein Occlusion)

นี่คือสาเหตุที่ ต้องให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะถือเป็นโรคที่อาจมีผลกระทบรุนแรง เกิดจากการตีบหรืออุดตันของหลอดเลือดดำใหญ่ในอก (เช่น subclavian vein, innominate vein หรือ superior vena cava)

ภาพแสดงเส้นเลือดปูดที่อกและแขนขวา/คอบวม จากหลอดเลือดดำลึกในอกตีบตัน ในผู้ป่วยไตวายและเคยใส่สายสวนที่บริเวณอกขวา

เมื่อเลือดไม่สามารถไหลกลับหัวใจได้ตามปกติ ร่างกายจะสร้างเส้นเลือดทางเบี่ยง (collateral veins) ขึ้น ทำให้เห็นเส้นเลือดที่ปูดชัดเจนบริเวณหน้าอก ไหล่ และแขน อาจจะพบร่วมกับแขนบวมและหน้าบวม

มักสัมพันธ์กับการฟอกไตที่ต้องใส่สายสวนฟอกไต เนื้องอกกดทับในทรวงอกเช่นมะเร็งปอด หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

อาจมีอาการบวมของเต้านม ของใบหน้าและของแขนร่วมด้วย

กรณีนี้ถือว่ารุนแรง ต้องพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่นศัลยแพทย์หลอดเลือดทันที

 

  1. หลังการเสริมหน้าอก (Breast Augmentation)

การใส่ซิลิโคนเสริมเต้านม อาจทำให้เกิดการกดเบียดหรือเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและเส้นเลือด

ภาพแสดงเส้นเลือดปูดที่อกหลังจากการเสริมหน้าอก

ผู้ป่วยบางรายสังเกตว่าเกิด รอยเขียวหรือเส้นเลือดฝอย บริเวณหน้าอกหลังการผ่าตัด

แม้ส่วนใหญ่ไม่อันตราย แต่สร้างความกังวลเรื่องความสวยงาม

สามารถแก้ไขด้วยการรักษาเส้นเลือดฝอย เช่น การฉีดยาหรือเลเซอร์

 

การวินิจฉัย

แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจส่งตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น

การทำอัลตร้าซาวด์หลอดเลือด (Doppler ultrasound) เพื่อตรวจการไหลเวียนเลือด

การตรวจฉีดสีหลอดเลือดดำโดยเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT venography) หากสงสัยหลอดเลือดดำส่วนกลางอุดตัน

ภาพแสดงการตรวจฉีดสีหลอดเลือดดำโดยเทคนิคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบหลอดเลือดดำลึกในอกตีบตัน (Right innominate vein occlusion)

ตรวจสอบประวัติการผ่าตัดเสริมหน้าอกหรือการใส่สายสวนหลอดเลือด

วิธีการรักษาเส้นเลือดที่หน้าอก

  1. การฉีดยา Sclerotherapy

เหมาะกับ spider veins และเส้นเลือดขอดขนาดเล็ก

ภาพแสดงการฉีดยาเส้นเลือด

เป็นการฉีดสารพิเศษเข้าไปในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดหดตัวและค่อย ๆ จางหาย

ปลอดภัย ทำแบบผู้ป่วยนอก ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ได้ผลดีในด้านความสวยงาม

  1. เลเซอร์ผิวหนัง (Cutaneous Laser Therapy)

เหมาะสำหรับ เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ (telangiectasia)

ภาพแสดงการฉีดยาเส้นเลือด

ใช้พลังงานเลเซอร์ทำลายผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดค่อย ๆ เลือนหายเจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น

  1. การรักษาภาวะหลอดเลือดดำลึกในอกอุดตัน (Central Vein Occlusion)

กรณีนี้ต้องรักษาโดยศัลยแพทย์หลอดเลือด

วิธีรักษาอาจรวมถึง

การขยายหลอดเลือดด้วยบอลลูน (Balloon angioplasty)

การใส่ขดลวด (Stent)

การผ่าตัดเปิดทางใหม่ (bypass )ในรายที่ซับซ้อน

จุดประสงค์คือ ทำให้การไหลเวียนเลือดได้ดีขึ้น และป้องกันภาวะแทรกช้อน

 

  1. หลังศัลยกรรมเสริมหน้าอก

หากเกิดเส้นเลือดฝอยหรือรอยเขียว สามารถรักษาด้วย sclerotherapy หรือเลเซอร์

แต่ต้องตรวจสอบก่อนว่าไม่ใช่ภาวะแทรกซ้อนจากซิลิโคน เช่น การกดเบียดหรือการอักเสบ

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

 

Q: เส้นเลือดที่หน้าอกอันตรายหรือไม่?

A: ส่วนใหญ่ไม่อันตราย มักเป็นเพียงเส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดขอดเล็ก ๆ แต่ถ้ามีอาการบวมของเต้านม บวมหน้าหรือบวมที่ แขน หรือเส้นเลือดปูดจำนวนมาก ควรตรวจหาภาวะอุดตันของหลอดเลือดดำลึกในอก

 

Q: สามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม?

A: เส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดปูด สามารถรักษาให้จางหายได้ด้วยการฉีดยาหรือเลเซอร์ แต่หากเป็นหลอดเลือดดำลึกในอกอุดตัน (central vein occlusion) ต้องรักษาที่ต้นเหตุด้วยการขยายหลอดเลือดหรือใส่ขดลวด

 

Q: การฉีด (sclerotherapy) ปลอดภัยไหม?

A: เป็นวิธีมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก ปลอดภัยสูง เจ็บน้อย ทำแบบผู้ป่วยนอกได้ ผลลัพธ์เห็นชัดเจนในไม่กี่สัปดาห์

 

Q: หลังเสริมหน้าอกแล้วมีเส้นเลือดขึ้น ควรกังวลหรือไม่?

A: ส่วนใหญ่เป็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและเส้นเลือด ไม่อันตราย แต่ถ้ากังวลเรื่องความสวยงาม สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดหรือเลเซอร์

สรุป

 

เส้นเลือดปูดที่หน้าอก เป็นภาวะที่พบได้บ่อย มีได้ตั้งแต่สาเหตุธรรมดาในภาวะปกติ เส้นเลือดฝอย ไปจนถึงภาวะที่อาจรุนแรงอย่างหลอดเลือดดำลึกในอกอุดตัน (central vein occlusion) สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรมองข้าม ควรให้แพทย์เฉพาะทางตรวจประเมินสาเหตุที่แท้จริง

 

สำหรับผู้ที่กังวลด้านความสวยงาม ปัจจุบันมีวิธีรักษาที่ได้ผลและปลอดภัย เช่นการฉีดยา (sclerotherapy) และ การทำเลเซอร์ (cutaneous laser) ที่ช่วยทำให้หน้าอกกลับมาสวยงามและเรียบเนียนอีกครั้ง

ภาพซ้ายแสดงเส้นเลือดขอดที่น่องซ้าย ภาพขวาแสดงเส้นเลือดฝอยที่บริเวณข้อเท้าขวา

แม้เส้นเลือดขอดจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ถ้าลุกลามอาจทำให้เกิดแผลเรื้อรัง เลือดออกรุนแรงหรือเส้นเลือดอักเสบได้ การป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จึงสำคัญมาก

5 วิธีป้องกันเส้นเลือดขอดที่บ้าน

  1. ใส่ถุงน่องแรงดัน (Compression Stockings) ถุงน่องเฉพาะโรคสำหรับโรคเส้นเลือดขอด
  • ช่วยบีบหลอดเลือดดำให้เลือดไหลเวียนกลับหัวใจได้ดี
  • ลดอาการปวด บวม และชะลอการลุกลามของเส้นเลือดขอด
  • ควรเลือกชนิดและแรงดันให้เหมาะสมโดยปรึกษาแพทย์

ภาพแสดงการใส่ถุงน่อง

  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การขยับร่างกายช่วยให้กล้ามเนื้อขาทำงานเหมือน “ปั๊มเลือด”
ตัวอย่างการออกกำลังกายง่าย ๆ ที่ทำได้ที่บ้าน:

  • เดินเร็ว (Walking)
  • ยกส้นเท้า (Calf Raises)
  • หมุนข้อเท้า (Ankle Rotations)
  • ปั่นจักรยานในอากาศ (Bicycle Legs)
  1. ยกขาสูงวันละหลายครั้ง
  • การนอนยกขาสูงเหนือระดับหัวใจ 15–30 นาที วันละ 2–3 ครั้ง
  • ช่วยให้เลือดคั่งในหลอดเลือดขาน้อยลง
  • ลดอาการปวดและบวม โดยเฉพาะหลังยืนนาน ๆ
  1. หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือนั่งนานเกินไป
  • คนที่ทำงานยืน เช่น พนักงานขาย ครู พยาบาล มีความเสี่ยงสูง
  • ถ้าจำเป็นต้องยืน ควร “ขยับเท้า” หรือ “ก้าวเดินเล็ก ๆ” ทุก 30–60 นาที
  • ถ้านั่งทำงานนาน ควรลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายหรือเดินบ้าง
  1. ควบคุมน้ำหนักและลดอาหารเค็ม
  • ภาวะอ้วน เพิ่มแรงดันในหลอดเลือดดำที่ขา ทำให้เสี่ยงเส้นเลือดขอดมากขึ้น
  • ควรกินผัก ผลไม้ ดื่มน้ำเพียงพอ และลดโซเดียม

เมื่อไรควรพบแพทย์?

  • เห็นเส้นเลือดปูดชัดเจนคล้ายเชือกที่ขา
  • มีเส้นฝอยคล้ายใยแมงมุมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • ปวด หนักขา หรือบวมจนรบกวนชีวิตประจำวัน

แพทย์สามารถประเมินและให้การรักษา เช่น การฉีดยา (Sclerotherapy), เลเซอร์รักษาหลอดเลือด (Endovenous Laser) หรือการรักษาแบบไม่ผ่าตัดอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันทำได้สะดวกและปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดมยา เพียงฉีดยาชาก็สามารถทำได้ ทำให้การรักษาเส้นเลือดขอดปัจจุบัน เป็นการรักษาแบบเดินมาเดินกลับได้เลย

สรุป

การป้องกันเส้นเลือดขอดสามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ได้แก่

  1. ใส่ถุงน่องแรงดัน
  2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  3. ยกขาสูง
  4. หลีกเลี่ยงการยืนนานหรือนั่งนาน
  5. ควบคุมน้ำหนักและลดอาหารเค็ม

แม้ว่าวิธีเหล่านี้จะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการได้ แต่ ถ้ามีเส้นเลือดขอดแล้ว เพื่อการรักษาในการกำจัดเส้นเลือดเหล่านี้ถาวร  ควรรีบพบแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้านหลอดเลือดเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง