วิธีรักษา

รักษาหลักมี 6 เทคนิคด้วยกันคือ

• การฉีดยาเข้าเส้นเลือดขอดด้วยเข็มขนาดไมโคร (ขนาดเล็ก) ใช้รักษาเส้นเลือดฝอย และเส้นเลือดขอดขนาดเล็ก
• การฉีดยาเข้าเส้นเลือดขอด โดยใช้อัลตร้าซาวด์เป็นตัวนำ (ultrasound) ใช้กับเส้นเลือดขอดขนาดกลางถึงใหญ่
• การสะกิดเส้นเลือดขอด (microphlebectomy) ได้แก่ การฉีดโฟมยาเข้าเส้นเลือดขอด (foam sclerotherapy) ใช้กับเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ และการดึงเส้นเลือดขอดออกด้วยแผลเล็กเท่าขนาดปลายปากกา (1 มิลลิเมตร)
• การใช้คลื่นวิทยุ เลเซอร์ หรือการใส่สารยึดเกาะ (กาว) ใช้กับเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่มาก
ในผู้ป่วยจำนวนมากต้องใช้หลายเทคนิคร่วมกันในการรักษาครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด

1. การฉีดยาเข้าเส้นเลือดขอดด้วยเข็มขนาดเล็ก (microsclerotherapy)

      คำว่า “sclerotherapy” มาจากคำภาษากรีก “sclero” ซึ่งหมายถึง’ทำให้แข็ง’ หลอดเลือดดำที่ผ่านการรักษานี้ด้วยยาฉีดจะได้รับการบาดเจ็บ เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เส้นเลือดจะรู้สึกแข็งเล็กน้อยและนี่คือสัญญาณที่ส่งถึงร่างกายของคุณระบบภูมิคุ้มกันจะเริ่มสลายเส้นเลือด ในที่สุดหลอดเลือดดำจะถูกดูดซึมและหายไป

      การฉีดยาเข้าเส้นเลือดขอดด้วยเข็มขนาดเล็ก ถือเป็นวิธีทางเลือกอันดับหนึ่งสำหรับการรักษาเส้นเลือดฝอยขนาดเล็ก ลักษณะที่เห็นมักจะเป็นตาข่าย ไยแมงมุม ทำโดยการฉีดยาที่ทำให้เกิดการระคายเคือง (sclerosant) ผ่านเข็มขนาดเล๊กมากเล็กกว่าขนาดเส้นผม

      ส่วนยาที่ใช้ทางคลินิกเลือกใช้คือ โพลิโดคานอล (Polidocanol มีชื่อทางการค้าว่า Aethoxyskeral ®) ยาดังกล่าวเป็นสารบริสุทธิ์ปราศจากเชื้อที่ใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดโดยเฉพาะ เพื่อให้หลอดเลือดผิดปกตินี้หดตัวเล็กลง อักเสบและสลายไปในที่สุด ยาตัวนี้มีหลากหลายความเข้มข้น มีความปลอดภัยสูงและไม่ปวด ยาจะทำงานคู่กับถุงน่องเฉพาะโรคที่มีแรงบีบรัดที่เหมาะสมกับขาของแต่ละคน จึงจะให้ผลการรักษาที่ดี เป็นยาที่ผลิตในประเทศเยอรมันและผ่านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทยแล้ว

ภาพแสดงการฉีดยาลักษณะเป็นโฟมสีขาวไปในหลอดเลือดฝอย

ภาพแสดงรูปขาก่อนการรักษาโดยการฉีดยา (ภาพซ้าย) และรูปหลังการฉีดยา (ภาพขวา)

2. การฉีดยาโดยมีอัลตร้าซาวด์นำ (Ultrasound Guided Sclerotherapy (UGS))

      เป็นการรักษาเส้นเลือดขอดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการกำจัดเส้นเลือดขอดขนาดกลางถึงใหญ่ ไม่เหมือนกับการผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือยาสลบ ไม่ต้องหยุดทำงาน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีเส้นเลือดขอดขนาดกลางและใหญ่เหมาะสำหรับวิธีนี้

      ขั้นตอนการฉีดยาโดยมีอัลตร้าซาวด์นำ (UGS) ดำเนินการโดยใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์เพื่อหาตำแหน่งของหลอดเลือดดำที่ผิดปกติ และช่วยให้แพทย์สามารถฉีดยา (sclerotherapy) ผ่านเข็มได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย หรือล่าสุดคือใช้ยาลักษณะเป็นโฟม (foam sclerotherapy) เข้าเส้นเลือดดำโดยตรงที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อฉีดเข้าไปเส้นเลือดดำที่พองก็จะยุบตัว แล้วยาที่ฉีดก็จะเจือจาง และไม่มีฤทธิ์ ส่งผลให้ยาไม่มีผลในส่วนร่างกายที่ไกลออกไปจากบริเวณที่ฉีด แล้วยาจะถูกสลายอย่างรวดเร็วและถูกขับออกโดยตับและไต ลักษณะของหลอดเลือดดำที่รักษาจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

3. การรักษาโดยการสะกิดเส้นเลือดขอด

เป็นการกำจัดเส้นเลือดขอดที่มองเห็นได้ทางกายภาพภายใต้ยาชาเฉพาะที่ โดยใช้วิธีการที่คลินิกทำเป็นเทคนิคการดัดแปลงโดยเส้นเลือดที่จะกำจัดออกจะถูกฉีดด้วยยาในรูปแบบโฟม (foam sclerotherapy) ในตอนแรก สิ่งนี้ทำให้หลอดเลือดดำที่เคยมองเห็นใหญ่หดตัวและทำให้เลือดหมด ซึ่งสามารถเอาออกได้ผ่านการเจาะผิวหนังขนาดเล็ก (โดยปกติจะมีขนาด 1 มม. ซึ่งส่งผลให้แทบไม่มีรอยแผลเป็น) หลังจากนั้นเกี่ยวและดึงออกได้ ขั้นตอนนี้ฟังดูน่ากลัว แต่ด้วยวิธีการใหม่ๆ ในการใช้ยาชาเฉพาะที่ ขั้นตอนนี้แทบจะไม่เจ็บปวดเลยด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและความรู้สึกปวดมีเพียงเล็กน้อย ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้ทันที โดยงดออกกำลังกายอย่างหนักประมาณหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น อนึ่งการสะกิดเส้นเลือดขอดมักจะเป็นหัตถการที่ทำร่วมกับการกำจัดรูรั่วในหลอดเลือดดำหลักซึ่งสามารถทำได้โดยการทำเลเซอร์

ภาพแสดงขาก่อน (ภาพซ้าย) กับหลัง (ภาพขวา) การรักษาสะกิดเส้นเลือดขอด

4. การรักษาโดยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency ablation-RFA)

      ในผู้ที่เป็นเส้นเลือดขอดขั้นรุนแรง ในอดีตนั้นการรักษาที่ดีที่สุดคือการผ่าตัด แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่สำหรับรักษาเส้นเลือดขอดคือ “การรักษาโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ” ซึ่งวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเปิดแผล แต่จะใช้วิธีเจาะผ่านรูเข็มขนาดเล็ก แล้วใช้ขดลวดความร้อนเข้าไปทำให้เส้นเลือดขอดนั้นฝ่อลง โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเอาเส้นเลือดนั้นออกทั้งเส้นดังเช่นการผ่าตัดด้วยวิธีการเดิมๆ โดยก่อนจะปล่อยพลังงานความร้อนแพทย์จะฉีดน้ำเกลือผสมยาไปรอบๆ หลอดเลือดเพื่อป้องกันไม่ให้พลังงานความร้อนไปกระทบกระเทือน หรือบาดเจ็บต่ออวัยวะอื่นโดยรอบเช่นเส้นประสาท และหลอดเลือดแดง เครื่องกำเนิดคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) เป็นเครื่องที่จะแปรพลังงานจากคลื่นความถี่วิทยุนั้นมาเป็นความร้อนโดยค่าความร้อนอยู่ที่ 120 องศาเซลเซียส โดยความร้อนระดับนี้ทำให้เส้นใยของคอลลาเจนที่เป็นโครงสร้างสำคัญของผนังหลอดเลือดดำนั้นฝ่อตัวลงไป และนี้คือเหตุผลบางคนเรียกการรักษาด้วยคลื่นวิทยุและเลเซอร์ว่าเป็นการรักษาด้วยพลังงานความร้อน

รูปแสดงสายขดลวดคลื่นวิทยุผ่านรูเข็มบริเวณหัวเข่า กำลังจี้ทำลายเส้นเลือดขอดที่ขาเป็นระยะๆ ภาพซ้ายภาพก่อนการจี้  ภาพขวาหลังจี้ด้วยคลื่นวิทยุทำให้เส้นเลือดขอดปิดไปในที่สุด

5. การรักษาโดยเลเซอร์

      การรักษาโดยเลเซอร์หรือมีชื่อว่า Endovenous Laser Ablation (EVLA) คือเลเซอร์สำหรับกำจัดเส้นเลือดขอด หลักการเหมือนกับการทำคลื่นวิทยุ เพียงแต่อุณหภูมิของเครื่องเลเซอร์จะสูงกว่ามากเช่น 200-300 องศาสเซลเซียสและอุปกรณ์ค่อนข้างขนาดเล็กกว่าคลื่นวิทยุ จึงจะเจ็บน้อยกว่าและเดินทางเข้าไปในหลอดเลือดที่ขดเคี่ยวได้ดีกว่า
      ปัจจุบันวิธีนี้คือหนึ่งในเทคนิคที่ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดสำหรับการกำจัดหลอดเลือดดำ ได้ถูกพัฒนาขึ้นในปี ค.ศ.1990 ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นวิธีการใหม่ของการส่งผ่านแสงเลเซอร์เข้าสู่เป้าหมายโดยตรง การกำจัดเส้นเลือดดำวิธีนี้ทำให้เกิดแผลที่น้อยกว่าการผ่าตัดมากและลดอัตราภาวะแทรกซ้อนได้ เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับของผู้ป่วยและแพทย์ทั่วโลก และยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในแง่ความสวยความงามอีกด้วย ผลงานวิจัยที่ออกมาในระยะ 4-5 ปีนี้ แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจในระยะยาว 10 ปีขึ้นไป
      ขั้นตอนการใช้เลเซอร์กำจัดเส้นเลือดดำนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทคนิคการใช้เลเซอร์สำหรับการกำจัดหลอดเลือดดำนี้เห็นได้ชัดว่าดีกว่าการผ่าตัดแบบเดิมที่ต้องทำให้เกิดบาดแผลมากกว่าและอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มากกว่าด้วย

รูปซ้ายแสดงสายขดลวดของเลเซอร์ผ่านเข็มบริเวณหัวเข่า กำลังจี้ทำลายเส้นเลือดขอดที่ขาหนีบ 
รูปขวาแสดงแสงเลเซอร์ที่ออกจากปลายสายเลเซอร์

จุดเด่นของวิธีนี้คือ การรักษาจะใช้เวลาสั้น สามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกโดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล และสามารถทำได้โดยการฉีดยาชาเฉพาะที่โดยไม่ต้องดมยาสลบ ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วใน 1-2 วัน หลังจากการรักษา เส้นเลือดขอดจะยุบลง 70-90 % ใน 6-8 สัปดาห์ และจากการติดตามผลการรักษาผู้ป่วยในระยะ 2-4 ปี พบว่าโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้ ประมาณ 5 % ส่วนมากจะเป็นแค่หลอดเลือดฝอยเล็ก ๆ ซึ่งสามารถรักษาโดยการฉีดยาได้ เนื่องจากเส้นเลือดขอดเป็นโรคส่วนหนึ่งเกิดจากพันธุกรรมดังนั้นถ้าผู้ป่วยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงร่วมด้วยเช่น ยืนนาน อ้วน ตั้งครรภ์หลายครั้ง เส้นเลือดขอดก็จะกลับมากับเส้นเลือดอื่นๆที่ยังไม่ได้รักษา เพราะในขา ขาหนึ่งเรามีเส้นเลือดดำนับร้อยเส้น ที่ผ่านมารักษาเพียงเส้นเดียว

6. การรักษาโดยสารยึดเกาะหลอดเลือด (กาว)

ปลายปี ค.ศ. 2014 มีการรักษาใหม่เพิ่มเติมที่น่าสนใจ ในการรักษาหลอดเลือดดำขนาดใหญ่ที่ผิดปกติโดยใช้กาวทางการแพทย์ (cyanoacrylate) เปรียบดังการจะปิดกระดาษสองแผ่นให้ติดกันโดยมีกาวเป็นตัวหยุดเหมือนที่เราใช้กาวตราช้างยึดสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการทำเช่นนี้ก็เป็นการทำให้เส้นเลือดดำที่โป่งออก ก็ใช้กาวยึดให้ผนังสองข้างมาติดกัน แล้วเส้นเลือดก็ไม่โป่งอีกเลย ข้อมูลที่มีอยู่แนะนำว่าการปิดด้วยกาวทางการแพทย์นั้นมีประสิทธิภาพเท่ากับการรักษาด้วยเลเซอร์ การปิดด้วยกาวทางการแพทย์ไม่เหมือนกับการรักษาโดยเลเซอร์ ที่ไม่ใช้พลังงานความร้อน ซึ่งหมายความว่าขั้นตอนทั้งหมดสามารถทำได้ด้วยการฉีดยาชาขนาดเล็กเพียงครั้งเดียว ขั้นตอนเกี่ยวข้องกับการนำสายสวนขนาดเล็กโดยไม่เจ็บปวดผ่านผิวหนังที่ได้รับยาสลบเข้าไปในรูของหลอดเลือดดำและการจัดวางกาวทางการแพทย์ในตำแหน่งที่ถูกต้องภายในหลอดเลือดดำ ใช้มือกดเพื่อยึดเกาะผนังเส้นเลือดเข้าด้วยกัน จึงไม่มีการไหลเวียนของเลือดในเส้นเลือดดำที่ผิดปกติอีกต่อไป กาวทางการแพทย์ถูกใช้มากว่า 50 ปีในกระบวนการทางการแพทย์ต่างๆ ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมาก แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยบางคนก็กังวลกับการรักษาเพราะการรักษาดังกล่าวจะมีกาว สิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย และบางคนอาจจะกลัวว่าการทำดังกล่าวกาวจะหลุดไปอวัยวะอื่น แต่จากรายงานกาวดังกล่าวมีความเหนียวสูงมาก (polymerization) เมื่อเจอเลือดกาวจะแข็งตัวและเกาะอยู่เฉพาะกับผนังหลอดเลือดตรงนั้น

ภาพแสดงการใส่กาวในหลอดเลือด  ภาพบนช่วงหลอดเลือดขอดยังไม่มีกาว  ภาพล่างเมื่อใส่กาวผ่านท่อพลาสติกแล้วกดให้ผนังหลอดเลือดปิดเข้าหากัน ส่งผลให้เส้นเลือดขอดไม่มีอีกต่อไป

การรักษาเสริมด้วยวิธีอื่น

การรักษาต่อไปนี้ต่อไปนี้ เป็นการรักษาเสริมร่วมกับการรักษาหลัก  นั้นหมายความว่าการรักษาเส้นเลือดขอดให้ตรงได้ผลอย่างรวดเร็วต้องรักษาโดย 6 วิธีข้างต้นเป็นหลัก  แต่ที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นการรักษาเสริม ซึ่งจะส่งผลให้การรักษาหลักดีขึ้น  แต่จะรักษาโดยการรักษาเสริมเพียงเท่านั้นก็จะไม่ได้ผลเต็มที่แต่อย่างใด

1. การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยยารับประทาน

      จากการศึกษาพบว่ากลไกเริ่มต้นของการเกิดเส้นเลือดขอดเกิดจากกระบวนการอักเสบ โดยในระยะเริ่มต้นมีเม็ดเลือดขาวไปเกาะและทำลายลิ้นหลอดเลือด จึงทำให้เลือดไหลรั่วผ่านลิ้นหลอดเลือดดำ เปรียบเหมือนวาวล์น้ำที่ปิดไม่สนิทจึงทำให้มีน้ำรั่ว ย้อนออกมาและเกิดเส้นเลือดดำโป่งและขอดในหลอดเลือดดำต่ำกว่าลิ้นนั้น (รูป) มีการวิจัยออกมาแล้วว่า ยารับประทานหลายกลุ่มเช่น กลุ่ม Diosmin (Daflon) Sulodexide (Vessel) และ Aescin (Reparil)ทำหน้าที่ยับยั้งกระบวนการอักเสบให้ลดลง ทำให้ลิ้นหลอดเลือดกลับมาเป็นปกติ โดยเฉพาะในเส้นเลือดขอดขนาดเล็กๆ ดังนั้นถ้ารักษาตั้งแต่ระยะแรกยานี้อาจช่วยให้หายได้ แต่ถ้ามาตอนระยะที่เป็นเส้นเลือดขอดจนเห็นจากภานนอกแล้วยาตัวนี้จะไม่เพียงพอ บทบาทยาทานเหล่านี้เป็นการรักษาเสริม ต้องมีการรักษาหลัก เช่นการฉีดยา หรือ การใช้เลเซอร์ทำลายเส้นเลือดขอด หน้าที่ขอยาทานจะเป็นการรักษาเพื่อลดอาการเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้เส้นเลือดขอดหายแต่ประการใด การรักษาเส้นเลือดขอดสามารถทำการรักษาโดยการทำเลเซอร์ การรักษาเส้นเลือดฝอยก็ต้องทำโดยการฉีดยาเป็นต้น

รูปแสดงยาทาน

2. การรักษาเส้นเลือดขอดโดยถุงน่อง

การใส่ถุงน่องสามารถมีประโยชน์ใน 2 ระยะ
1. ในระยะแรก เราอาจจะเรียกว่าถุงน่องเพื่อสุขภาพขา หรือที่นิยมเรียกกันว่าถุงน่องป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอด คือถุงน่องหรือถุงเท้ายาว ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ จะมีแรงบีบรัดที่ค่อย ๆเพิ่มขึ้นจากเท้าถึงน่อง แรงบีบจะสูงสุดบริเวณข้อเท้า แล้วค่อยๆ ลดลงตามลำดับเมื่อ แรงบีบในระยะนี้จะอยู่ในช่วงจะประมาณ 15-20 มิลลิเมตรปรอท แรงบีบรัดนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อบีบเพิ่มแรงสูบฉีดเลือดดีขึ้น ช่วยบีบไล่เนื้อเยื่อที่บวม (สารน้ำที่คั่งที่ขา) ให้ยุบลงและช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยขานั่นเอง โดยจะต้องสวมถุงน่องอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ท่ายืน ดังนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าใส่ช่วงกลางวัน แต่ตอนนอนไม่ต้องใส่
2. ในระยะที่เป็นเส้นเลือดขอดแล้ว ในระหว่างที่รอการทำการรักษาเส้นเลือดขอดเช่นการทำเลเซอร์ ก็สามารถใส่ถุงน่องเพื่อลดอาการได้บ้าง แต่การใส่ถุงน่องไม่สามารถทดแทนการทำเลเซอร์เส้นเลือดขอดได้ เพราะการใส่ถุงน่องไม่เคยทำให้เส้นเลือดขอดหายได้ ไม่ได้ไปแก้ปัญหาลิ้นหลอดเลือดรั่วโดยตรง เมื่อเอาถุงน่องออกหลอดเลือดก็รั่ว ป่องเช่นเดิม แรงบีบในระยะนี้จะอยู่ในช่วงจะประมาณ 20-30 มิลลิเมตรปรอท นอกจากนี้หลังการรักษาไม่ว่าเลเซอร์หรือฉีดยาในกรณีเส้นเลือดฝอยการใส่ถุงน่องก็เป็นการทำให้ผลการรักษาดีขึ้น ลดการช้ำระบมจากการรักษา ลดบวม แพทย์มักจะแนะนำให้ใส่ 1-2 สัปดาห์หลังทำการรักษา

ถุงน่องในท้องตลาดมีหลากหลายชนิด ทั้งมีสีให้เลือกต่างกัน ความยาวใต้เข่าหรือสูงกว่าเหนือเข่า และความดันที่ต่างกัน ก่อนตัดสินใจซื้อท่านจะได้รับการวัดขนาดขาและให้คำแนะนำในการใส่จากแพทย์ พยาบาลของคลินิก

ภาพซ้าย ขาใส่ถุงน่องสีเนื้อแบบเหนือเข่า  แบบปลายปิด  ภาพขวาแสดงขาใส่ถุงน่องสีเนื้อสูงเหนือเข่า  แบบปลายเท้าเปิด

ภาพแสดงผลิตภัณฑ์ถุงน่องหลากหลายแบบ หลายยี่ห้อ

3. การพันขา ในผู้ป่วยมีแผลจากเส้นเลือดขอด

      การเกิดแผลจากเส้นเลือดขอดมักมีสาเหตุมาจากเป็นโรคเส้นเลือดขอดอย่างรุนแรง ส่งผลให้มีความดันในหลอดเลือดดำสูง มีเลือดคั่งที่ขา โดยเฉพาะข้อเท้า ส่งผลต่อการนำอาหาร ออกซิเจนไปเลี้ยงผิวหนังลดลง ส่งผลให้เกิดแผล ถ้าเปรียบเหมือนต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณน้ำท่วมขังนานๆ ก็ย่อมเน่าตาย การเกิดแผลจากโรคหลอดเลือดดำก็เช่นกัน โดยสามารถมีอาการดังต่อไปนี้
• มักพบแผลบริเวณข้อเท้าเหนือตาตุ่มด้านใน
• แผลสามารถเป็นได้รุนแรงจนรอบข้อเท้า
• แผลเหล่านี้ บริเวณรอบๆ จะมีผิวหนังสีดำ แข็ง หนาๆ
• พบเส้นเลือดขอดที่ขาร่วมด้วยจำนวนมาก ขาบวม
• แผลประเภทนี้จะแฉะ มีน้ำเหลืองออกมาจำนวนมาก
• ผู้ป่วยมักมีประวัติของเส้นเลือดขอด เส้นเลือดดำอุดตันมาก่อน

ภาพแสดงลักษณะแผลจากโรคเส้นเลือดขอด

ในระยะนี้อันที่จริงหลักการรักษาก็เหมือนกันคือต้องไปปิดรูรั่วของหลอดเลือดดำสำคัญที่สุด ซึ่งสามารถทำไม่ยากในปัจจุบัน โดยการทำเลเซอร์เส้นเลือดขอดเป็นต้น  แต่สิ่งที่ต่างคือมีแผลที่ต้องทำ และเนื่องจากการเกิดแผลเกิดจากการที่มีหลอดเลือดโป่งพองดังนั้น  จะมีการรักษาเสริมคือการพันขา   ในโรคระยะนี้ คลินิกของเราแนะนำใช้ผ้าพันแผลมากกว่าการใส่ถุงน่อง เนื่องจากแรงกดภายใต้การพันผ้านั้นสูงกว่าการพันผ้าไว้มาก ความดันสูงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหายของแผลเรื้อรัง  การพันขาที่ดีจะทำให้แผลหายเร็วขึ้นมาก  เปรียบเหมือนการมีน้ำท่วมต้นไม้เราก็ต้องดูดน้ำออกจากรอบต้นมิฉะนั้นต้นไม้ รากจะเน่าตาย  การพันขาก็เป็นการรีดเลือดโดยผ้าพันขา  ทำให้ขาแห้งลง  แผลก็สมาน แต่เมื่อแผลหายแล้วแพทย์จะแนะนำให้ใส่ถุงน่อง

ภาพแสดงการพันขา

ภาพซ้ายแสดงก่อนการพันขา  ภาพขวาแผลหายหลัง

4. การรักษาแบบดั้งเดิม (Venous stripping)

      การผ่าตัดแบบดังเดิม (Venous stripping) คือ การรักษาเส้นเลือดขอดโดยการผ่าตัดเพื่อลอกเอาเส้นเลือดดำที่มีปัญหาออกทั้งเส้น เทคนิคนี้จะทำการลงแผลที่บริเวณขาหนีบ เพื่อตัดเส้นเลือดขอดและผูก (ภาพ A) หลังจากนั้นจะดึงเส้นเลือดดังกล่าวลอกออกมาที่บริเวณหัวเข่าโดยมีแผลผ่าตัดขนาดเล็กอีกแผล (ภาพ B และ C) การผ่าตัดมักทำภายใต้การดมยาสลบหรือการฉีดยาเข้าไขสันหลัง ผู้ป่วยส่วนมากจะกลับบ้านใน 1-3 วันต่อมา การผ่าตัดนี้มีประวัติการทำยาวนานกว่า 100 ปี แต่ในระยะหลังพบว่าการผ่าตัดเหล่านี้ผู้ป่วยจะเจ็บปวดทรมานมากและการกลับมาเป็นใหม่ได้สูง ความนิยมจึงลดลงหันไปทำเทคนิคใหม่โดยวิธีเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุ

ภาพแสดงขั้นตอนการผ่าตัดแบบดั้งเดิม

ภาพแสดงลักษณะขาหลังการผ่าตัดแบบดั้งเดิมมา 2 สัปดาห์