หลังการรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอย: หายขาดจริงหรืออาจกลับมาเป็นอีก?

โดย | บทความเส้นเลือดขอด

ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ กิตติพันธุ์  ฤกษ์เกษม

Leg Vein Clinic Thailand

บทนำ

เส้นเลือดขอด (Varicose Vein) และเส้นเลือดฝอย (Spider Vein) เป็นโรคที่พบบ่อย โดยเฉพาะในคนเอเชียและคนไทยที่ต้องยืนนาน ๆ หรือมีพันธุกรรมเกี่ยวข้อง ปัญหานี้ไม่เพียงแต่สร้างความไม่สวยงามด้านผิวพรรณ แต่ยังอาจทำให้เกิดอาการปวด ตึง หนักขา บวม หรือแม้กระทั่งเกิดแผลเรื้อรังได้

ภาพผู้ป่วยที่เป็นเส้นเลือดฝอยและเส้นเลือดขอด

 

ปัจจุบันการรักษาเส้นเลือดขอดพัฒนาไปมาก ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่เหมือนในอดีตแล้ว วิธีการที่นิยม ได้แก่ Endovenous Laser Ablation (EVLA) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าเลเซอร์รักษาเส้นเลือดขอด, การฉีดยาเข้าเส้นเลือด (sclerotherapy) และ เลเซอร์สำหรับเส้นเลือดฝอย ซึ่งล้วนเป็นหัตถการที่ทำแบบผู้ป่วยนอก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว

 

คำถามที่ผู้ป่วยทุกคนอยากรู้คือ “รักษาแล้วหายขาดไหม?” และ “จะกลับมาเป็นอีกหรือเปล่า?”

การรักษาเส้นเลือดขอดด้วย EVLA

EVLA (Endovenous Laser Ablation) เป็นมาตรฐานใหม่ในการรักษาเส้นเลือดขอดที่มีขนาดใหญ่ เช่น เส้น Great Saphenous Vein (GSV) หรือ Small Saphenous Vein (SSV) หลักการคือการสอดสายเลเซอร์เข้าไปในหลอดเลือด แล้วปล่อยพลังงานความร้อนเพื่อทำให้ผนังหลอดเลือดปิดถาวรงานวิจัยหลายรายงานแสดงอัตราความสำเร็จสูงมาก (มากกว่า 90–95% ในระยะ 3–5 ปี) เส้นเลือดที่ปิดไปแล้วมักไม่กลับมาเปิดใหม่ความเสี่ยงของการเกิดซ้ำจากเส้นที่รักษาแล้วมีน้อยกว่าการผ่าตัดดั้งเดิม (stripping) อย่างไรก็ตาม แม้เส้นที่รักษาแล้วจะหายไป แต่ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้หายขาด เพราะเส้นเลือดขอดถือเป็น โรคเรื้อรัง หากยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่ เช่น ยืนนาน น้ำหนักเกิน หรือมีพันธุกรรมเกี่ยวข้อง อาจมีเส้นเลือดใหม่เกิดขึ้นได้ หรือเส้นเลือดอื่นที่ยังเหลืออยู่

 

การฉีดยา (Sclerotherapy) และเลเซอร์เส้นเลือดฝอย

สำหรับเส้นเลือดฝอย (spider vein) และเส้นเลือดขนาดเล็ก (reticular vein) การรักษาหลักคือ sclerotherapy และ laser for spider vein ส่วน Sclerotherapy คือการฉีดยา (เช่น polidocanol หรือ sodium tetradecyl sulfate) เข้าไปในเส้นเลือด ทำให้ผนังเส้นเลือดติดกันและหายไป

เลเซอร์ผิวหนังสำหรับ spider vein ใช้พลังงานเลเซอร์เจาะผ่านผิวหนังไปยังเส้นเลือดฝอย ทำให้เส้นหดตัวและค่อย ๆ จางหาย ผลลัพธ์มักเห็นชัดใน 2–4 สัปดาห์ และเส้นที่รักษามักหายไปถาวร แต่มีความเป็นไปได้ที่เส้นใหม่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือในคนที่ยังคงยืนนาน ๆ

 

 

ทำไมเส้นเลือดถึงกลับมาเป็นอีก?

ถึงแม้เทคโนโลยีการรักษาจะก้าวหน้า แต่เส้นเลือดขอดยังถือเป็นโรคที่อาจกลับมาได้ เหตุผลหลัก ๆ ได้แก่:

– พันธุกรรม (Genetics) หากในครอบครัวมีประวัติเส้นเลือดขอด โอกาสกลับมาเป็นใหม่จะสูง

-ปัจจัยฮอร์โมนและการตั้งครรภ์

ฮอร์โมนเพศหญิงและการตั้งครรภ์มีผลโดยตรงต่อการเกิดเส้นเลือดขอด

-พฤติกรรมการใช้ชีวิต

การยืนนาน นั่งนาน น้ำหนักเกิน หรือขาดการออกกำลังกาย ล้วนเพิ่มโอกาสเกิดเส้นใหม่

-การรักษาไม่ครบทุกเส้น

บางครั้งการรักษาเส้นหลัก (เช่น GSV) สำเร็จ แต่เส้นแขนงหรือ perforator veins ยังมีการรั่วอยู่ → อาจเกิดเส้นใหม่ได้. นอกจากนั้นยังมีกระบวนการเกิดการงอกเกิดเส้นเลือดใหม่ ภายหลังการรักษา

(Neovascularization) โดยเฉพาะหลังการผ่าตัดแบบ stripping มีรายงานว่าเส้นเลือดใหม่งอกขึ้นบริเวณขาหนีบได้ แต่ใน EVLA พบได้น้อยกว่า

 

ความจริง: หายขาดหรือไม่?

เส้นเลือดที่ถูกปิดด้วย EVLA หรือ sclerotherapy จะ ไม่กลับมาเปิดอีก → ถือว่า “หายถาวรในเส้นนั้น ๆ” แต่โรคเส้นเลือดขอดโดยรวม ไม่หายขาด เพราะร่างกายอาจสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้นได้

ดังนั้นจึงควรทำความเข้าใจว่า:

“เส้นที่รักษาแล้วหาย แต่โรคอาจกลับมาเป็นใหม่ที่เส้นอื่น” การดูแลหลังการรักษาเพื่อลดโอกาสกลับมา แม้ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่การดูแลที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงได้

– ใส่ถุงน่องเส้นเลือดขอด ตามคำแนะนำแพทย์ โดยเฉพาะช่วง 1–2 สัปดาห์แรกหลังรักษา

– ควบคุมน้ำหนัก เพื่อไม่ให้เกิดแรงดันในหลอดเลือดขาเพิ่ม

– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ → กระตุ้นการไหลเวียนเลือด

– เลี่ยงการยืนนาน ๆ หรือนั่งนาน ๆ พยายามขยับขาเป็นระยะ

-ตรวจติดตามด้วยอัลตราซาวด์ เพื่อดูว่ามีเส้นใหม่เกิดขึ้นหรือไม่

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: EVLA ทำครั้งเดียวหายเลยไหม?

A: โดยทั่วไปเส้นที่ทำจะปิดถาวร แต่โรคเส้นเลือดขอดอาจกลับมาในเส้นอื่นได้

Q: ฉีดยาเส้นเลือดฝอยแล้วจะกลับมาอีกหรือเปล่า?

A: เส้นที่ฉีดแล้วจะหาย แต่เส้นใหม่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะถ้ายังมีปัจจัยเสี่ยง

Q: ต้องทำซ้ำกี่ครั้ง?

A: บางคนทำครั้งเดียวพอ แต่บางคนต้องติดตามและรักษาซ้ำในบางจุด โดยเฉพาะ spider vein

Q: หลังรักษาต้องใส่ถุงน่องนานแค่ไหน?

A: ส่วนใหญ่แนะนำใส่อย่างน้อย 1–2 สัปดาห์ หลังจากนั้นใส่เฉพาะเวลาเดินทางไกลหรือยืนนาน ๆ

 

สรุป

การรักษาเส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยด้วยวิธีสมัยใหม่ เช่น EVLA, sclerotherapy และเลเซอร์ ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเส้นที่รักษาไปแล้วมักจะหายถาวร ไม่กลับมาอีก แต่เนื่องจากโรคเส้นเลือดขอดเป็นโรคเรื้อรังและมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน จึงยังมีโอกาสที่เส้นใหม่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น คำตอบที่ถูกต้องคือ:

เส้นที่รักษาแล้วหายไปถาวร แต่โรคเส้นเลือดขอดโดยรวมไม่หายขาด 100% อาจมีเส้นใหม่เกิดขึ้นในอนาคต การดูแลตนเองอย่างเหมาะสม ร่วมกับการติดตามตรวจสุขภาพกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังการรักษายั่งยืนและลดโอกาสการกลับมาเป็นอีก