ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฤกษ์เกษม
Leg Vein Clinic Thailand
เส้นเลือดฝอยคืออะไร
เส้นเลือดฝอย หรือที่เรียกว่า spider veins (เส้นเลือดแมงมุม) คือหลอดเลือดดำขนาดเล็กที่อยู่ตื้นใต้ผิวหนัง มักมีสีแดง ม่วง หรือฟ้า และเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณต้นขา ขา หลังเข่า หรือข้อเท้า ในทางการแพทย์เรียกว่า Telangiectasia
เส้นเลือดฝอยเหล่านี้เกิดจากแรงดันภายในหลอดเลือดดำที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลอดเลือดขยายและผนังบางลงจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายโดยตรง แต่ถือเป็น สัญญาณเริ่มต้นของความผิดปกติของระบบหลอดเลือดดำ

เส้นเลือดขอดคืออะไร
เส้นเลือดขอด (varicose veins) เป็นภาวะที่หลอดเลือดดำมีขนาดใหญ่ขึ้นและโป่งพองจนเห็นเป็นเส้นนูนใต้ผิวหนัง เกิดจาก ลิ้นหลอดเลือดดำเสื่อมสภาพ ทำให้เลือดที่ควรไหลกลับหัวใจไหลย้อนกลับลงขา เลือดจึงคั่งอยู่ในหลอดเลือด

อาการที่พบบ่อย ได้แก่
– ปวดเมื่อย ตึง หรือหนักขา โดยเฉพาะหลังยืนนาน
– ขาบวมตอนเย็น
– เป็นตะคริวตอนกลางคืน
– ผิวหนังคล้ำบริเวณข้อเท้า
– ในรายที่เป็นมาก อาจเกิดแผลเรื้อรังจากหลอดเลือดดำ
เส้นเลือดฝอยจะกลายเป็นเส้นเลือดขอดหรือไม่
คำตอบคือ มีโอกาส แต่ไม่เสมอไป
เส้นเลือดฝอยบางชนิดเกิดจากแรงดันที่สูงในหลอดเลือดดำหลัก เช่น Great Saphenous Vein ที่มีลิ้นหลอดเลือดรั่ว หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา แรงดันนี้อาจทำให้หลอดเลือดฝอยขยายเพิ่มและพัฒนาเป็นเส้นเลือดขอดในอนาคต
ในทางกลับกัน ถ้าเส้นเลือดฝอยเกิดเฉพาะบริเวณผิวหนังโดยไม่มีการรั่วของหลอดเลือดหลัก ก็อาจไม่กลายเป็นเส้นเลือดขอด แต่ยังคงอยู่ให้เห็นเรื่อย ๆ และอาจเพิ่มจำนวนตามอายุหรือพฤติกรรม
ดังนั้น การตรวจอัลตร้าซาวด์หลอดเลือด (Duplex Ultrasound) จึงสำคัญมาก เพราะอัลตร้าซาวด์สามารถบอกได้ว่ามีการรั่วของหลอดเลือดดำหลักหรือไม่
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เส้นเลือดฝอยพัฒนาเป็นเส้นเลือดขอด
กรรมพันธุ์ – หากคนในครอบครัวมีเส้นเลือดขอด โอกาสเกิดจะสูงขึ้น 2–3 เท่า
เพศหญิง – ฮอร์โมนเอสโตรเจนทำให้ผนังหลอดเลือดอ่อนตัวและลิ้นหลอดเลือดเสื่อมง่าย
การตั้งครรภ์ – มดลูกโตเพิ่มแรงดันในหลอดเลือดดำ อีกทั้งฮอร์โมนยังส่งผลให้หลอดเลือดขยาย
อาชีพที่ต้องยืนนานหรือนั่งนาน – เช่น พยาบาล ครู แอร์โฮสเตส พนักงานขาย พนักงานออฟฟิศ
น้ำหนักเกินหรืออ้วน – เพิ่มแรงกดและแรงดันในหลอดเลือด
อายุที่มากขึ้น – ลิ้นหลอดเลือดเสื่อมตามวัย
ขาดการออกกำลังกาย – กล้ามเนื้อขาไม่ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ
เมื่อเห็นเส้นเลือดฝอยที่ขา ควรทำอย่างไร
- อย่าตกใจ แต่ควรเริ่มสังเกต
เส้นเลือดฝอยเพียงเล็กน้อยไม่อันตราย แต่ควรสังเกตว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือไม่ หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวด ตึง หรือขาบวม
- ตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์ (Duplex Ultrasound)
เป็นการตรวจที่ปลอดภัยและแม่นยำ ช่วยประเมินว่ามี “ลิ้นหลอดเลือดดำรั่ว” หรือไม่ ถ้ามี แพทย์อาจแนะนำท่านสังเกตุอาการที่จะมีปัญหาหรือให้รักษาตั้งแต่ระยะต้น เพื่อป้องกันการเกิดเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ในอนาคต
- ดูแลตัวเองเบื้องต้น
หลีกเลี่ยงการยืนนานนานเกิน 2 ชั่วโมงโดยไม่ขยับขา
ยกขาสูงเวลาพักหรือนอน
เดินเร็วหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ
ควบคุมน้ำหนัก
สวมถุงน่องชนิดแรงดัน (compression stockings)
วิธีรักษาเส้นเลือดฝอย
🔹 1. การฉีดยา (Sclerotherapy)
เป็นการฉีดสารเข้าไปในเส้นเลือดฝอย ทำให้หลอดเลือดหดตัวและถูกดูดซึมโดยร่างกาย
ข้อดีคือปลอดภัย เห็นผลชัดเจน ไม่ต้องผ่าตัด และสามารถกลับไปทำงานได้ทันที

ภาพซ้ายแสดงภาพก่อนฉีดยา ภาพขวาแสดงหลังฉีดยา
🔹 2. การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Treatment)
ใช้พลังงานเลเซอร์ยิงปิดหลอดเลือดฝอย เหมาะกับเส้นเลือดฝอยที่เล็กมากหรือตื้นมาก นิยมใช้ร่วมกับการฉีดยาเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ภาพแสดงขณะการทำเลเซอร์
🔹 3. เทคนิค CLACS (Cryo-Laser and Cryo-Sclerotherapy)
เทคนิคใหม่ที่ผสานเลเซอร์และการฉีดยา พร้อมลมเย็นเพื่อลดความเจ็บ ให้ผลลัพธ์ดีกว่าและฟื้นตัวเร็วกว่าเดิม
เมื่อไหร่ควรรีบมาพบแพทย์
เส้นเลือดฝอยเพิ่มขึ้นมากในระยะเวลาไม่นาน
มีอาการปวด ตึง ขาบวม หรือผิวหนังคล้ำลง
มีเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ร่วมด้วย
เคยรักษาแล้วกลับมาเป็นซ้ำ
มีประวัติคนในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอด
บทสรุป
เส้นเลือดฝอยที่เห็นบนขา ไม่ใช่เพียงปัญหาความสวยงาม แต่เป็นสัญญาณเตือนว่าระบบหลอดเลือดดำอาจเริ่มมีความผิดปกติ
หากได้รับการตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถรักษาได้ง่ายกว่า และลดความเสี่ยงในการเกิดเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่หรือแผลเรื้อรังในอนาคต
“เส้นเลือดฝอยคือสัญญาณเตือนที่ดี หากเราฟังมันตั้งแต่เนิ่น ๆ เราจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตได้”
ศ.นพ.กิตติพันธุ์ ฤกษ์เกษม, ศัลยแพทย์หลอดเลือด
Leg Vein Clinic Thailand
❓ 5 คำถามยอดนิยมเกี่ยวกับเส้นเลือดฝอย
- เส้นเลือดฝอยหายเองได้ไหม?
โดยทั่วไป ไม่หายเอง ต้องอาศัยการรักษา เช่น การฉีดยา หรือเลเซอร์
- ใส่ถุงน่องแรงดันช่วยได้ไหม?
ช่วยลดอาการบวม ปวด และชะลอการลุกลามของเส้นเลือดฝอยได้จริง
- เส้นเลือดฝอยเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจหรือไม่?
ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง เพราะเส้นเลือดฝอยเป็นปัญหาของระบบหลอดเลือดดำตื้น ไม่ใช่หลอดเลือดหัวใจ
- หลังรักษาแล้ว เส้นเลือดฝอยจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่?
มีโอกาสกลับมาได้ โดยเฉพาะหากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ยืนนาน อ้วน หรือไม่ออกกำลังกาย แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการดูแลต่อเนื่องและมาตรวจติดตามเป็นระยะ
