ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ กิตติพันธุ์ ฤกษ์เกษม
Leg Vein Clinic Thailand
หลายคนที่มาปรึกษาเรื่อง เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) มักจะได้ยินคำจากหมอว่า “คุณมีลิ้นหลอดเลือดรั่วครับ”
แล้วก็จะถามกลับมาทันทีว่า
“รั่วออกมาข้างนอกเหรอคะ?”
“เลือดมันรั่วออกมานอกร่างกายหรือไง?”
คำถามนี้พบได้บ่อยมาก เพราะคำว่า “รั่ว” ฟังดูเหมือนของเหลวไหลทะลุออกมานอกหลอดเลือด แต่ในความเป็นจริง ลิ้นหลอดเลือดรั่วไม่ได้หมายถึงเลือดไหลออกมานอกเส้นเลือด เลยครับ

ภาพอธิบายเวลาลิ้นหลอดเลือดรั่ว การรั่วคล้ายกับวาวน้ำปิดไม่สนิท ส่งผลให้มีน้ำหยดออกมาก ถ้าหยดออกมากมากเลือดก็คั่งที่ขามาก เกิดอาการขาบวม ขาดำ เป็นแผล แต่เป็นการรั่วภายในหลอดเลือด ไม่ได้ออกมาข้างนอก
ระบบหลอดเลือดดำทำงานอย่างไร?
ในร่างกายของเรา มีหลอดเลือดสองระบบหลักคือ
- หลอดเลือดแดง (Arteries) นำเลือดจากหัวใจไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
- หลอดเลือดดำ (Veins) ทำหน้าที่นำเลือดกลับจากร่างกายกลับเข้าสู่หัวใจ
โดยเฉพาะบริเวณขา หลอดเลือดดำต้อง “สู้แรงโน้มถ่วงของโลก” เพื่อพาเลือดจากปลายเท้ากลับขึ้นไปที่หัวใจ
สิ่งที่ช่วยให้เลือดไหลขึ้นได้มีอยู่สามอย่างสำคัญ
- แรงบีบจากกล้ามเนื้อขา ขณะเดินหรือขยับตัว
- แรงดูดจากหัวใจและการหายใจ
- และที่สำคัญที่สุดคือ “ลิ้นหลอดเลือดดำ (Venous Valves)”
ลิ้นหลอดเลือดดำทำงานอย่างไร?
ลองนึกภาพ “วาล์วน้ำ” หรือ “ประตูเปิด-ปิดทางเดียว”
เวลาที่กล้ามเนื้อขาบีบตัว เลือดจะถูกดันขึ้นไปทางหัวใจ
เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว ลิ้นหลอดเลือดจะ “ปิด” เพื่อไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับลงมา
ระบบนี้ทำงานเป็นขั้นบันได —
เลือดจะค่อย ๆ ถูกส่งขึ้นทีละช่วง
จากเท้า → น่อง → ต้นขา → เข้าสู่หัวใจ

แล้วถ้าลิ้นหลอดเลือด “รั่ว” ล่ะ?
เมื่อเวลาผ่านไปจากพันธุกรรม การยืนนาน การตั้งครรภ์ หรืออายุที่มากขึ้น ลิ้นหลอดเลือดอาจเสื่อมสภาพหรือยืดออก ไม่สามารถปิดสนิทได้
เมื่อเลือดถูกดันขึ้นไปแล้ว “ไหลย้อนกลับลงมา” ผ่านลิ้นที่ปิดไม่สนิท
เราจึงเรียกว่า “ลิ้นหลอดเลือดรั่ว (Venous Valve Incompetence)”
ดังนั้น คำว่า “รั่ว” จึงหมายถึง เลือดไหลย้อนในหลอดเลือดดำเอง ไม่ได้รั่วออกมานอกร่างกาย
เลือดเหล่านี้จะคั่งอยู่บริเวณขา โดยเฉพาะส่วนล่าง เช่น บริเวณน่องหรือข้อเท้า ทำให้
- หลอดเลือดโป่งพอง
- ผิวหนังตึง
- ขาหนัก
- หรือแม้กระทั่งบวมเรื้อรังในตอนเย็น
นี่คือสาเหตุหลักของ เส้นเลือดขอด
ตัวอย่างให้เห็นภาพ: ลิ้นหลอดเลือดรั่วเหมือนวาล์วน้ำที่ไม่ปิดสนิท
ลองนึกถึง “ก๊อกน้ำ” ที่มีวาล์วเสีย
เวลาปิดก๊อกแล้วน้ำยังหยด ๆ อยู่ใช่ไหมครับ?
แม้จะไม่ได้ไหลออกมามาก แต่แรงดันภายในก็ทำให้น้ำค้างอยู่ตรงจุดนั้นตลอดเวลา
ลิ้นหลอดเลือดก็เหมือนกัน ถ้าปิดไม่สนิท
เลือดก็จะค้างอยู่ในหลอดเลือดขา
เมื่อแรงดันในหลอดเลือดสูงขึ้นเรื่อย ๆ
หลอดเลือดก็จะโป่งออกมาทีละน้อย
จนกลายเป็น “เส้นเลือดขอด” ที่เห็นเป็นเส้นนูน ๆ ใต้ผิวหนัง

ภาพแสดงเปรียบลิ้นหลอดเลือดรั่ว เหมือนการรั่วของก๊อกน้ำ
จุดที่มักพบลิ้นหลอดเลือดรั่ว
ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ จุดที่พบการรั่วบ่อยคือ
- ขาหนีบ บริเวณที่หลอดเลือดดำใหญ่ (great saphenous vein) ต่อกับหลอดเลือดดำลึก เรียกว่า saphenofemoral junction (SFJ)
- หลังเข่า บริเวณที่หลอดเลือดดำใหญ่ (small saphenous vein) ต่อกับหลอดเลือดดำลึก เรียกว่า เรียกว่า saphenopopliteal junction (SPJ)
การตรวจหาจุดรั่วที่แม่นยำที่สุดคือ การตรวจอัลตราซาวด์หลอดเลือด (Venous Duplex Ultrasound) ซึ่งช่วยให้แพทย์เห็นภาพการไหลของเลือดแบบเรียลไทม์ ว่ามีจุดใดที่ลิ้นหลอดเลือดไม่สามารถปิดสนิทได้
เมื่อเลือดคั่งอยู่นาน จะเกิดอะไรขึ้น?
เลือดดำที่คั่งในขาจะทำให้เกิดแรงดันสูงในเนื้อเยื่อ
ผลที่ตามมาคือ
- ขาบวม โดยเฉพาะช่วงเย็น
- ขาหนัก เมื่อย เวลายืนนาน
- เส้นเลือดโป่งพองชัดเจน ใต้ผิวหนัง
- ผิวคล้ำเป็นสีน้ำตาล จากเม็ดเลือดแดงที่รั่วออกจากหลอดเลือดฝอย
- แผลเรื้อรังบริเวณข้อเท้า (venous ulcer) ในรายที่รุนแรง

ภาพเสดงเส้นเลือดขอดรุนแรง อันเป็นผลจากลิ้นหลอดเลือดรั่ว มีเส้นเลือดโป่งพอง ขาบวม ขาดำ
ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากเลือด “รั่วออกนอกหลอดเลือด”
แต่เกิดจากเลือดที่ “คั่งอยู่ภายใน” จากลิ้นที่ปิดไม่สนิทต่างหาก
การรักษา: ปิด “จุดรั่ว” ที่ต้นเหตุ
วิธีรักษาหลักของเส้นเลือดขอดในปัจจุบันคือ
การทำเลเซอร์หลอดเลือด (Endovenous Laser Ablation: EVLA)
เป็นการใช้พลังงานเลเซอร์ผ่านสายขนาดเล็กเข้าไปในหลอดเลือดที่รั่ว เพื่อให้ผนังหลอดเลือดหดตัวและปิดถาวร เลือดจะไหลกลับเข้าสู่ระบบปกติที่ไม่รั่วแทน
ขั้นตอนนี้ใช้เพียง ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ทำเสร็จสามารถเดินกลับบ้านได้ทันที
ผลการรักษาดีมากกว่า 95% และลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้มากกว่าการผ่าตัดแบบเดิม

ภาพแสดงไฟเลเซอร์ที่ปลายสาย ซึ่งอุณหภูมิ 120 องศา ก็สามารถทำให้เส้นเลือดที่ลิ้นรั่วทั้งหลายสุกได้และปิดในที่สุด
ถุงน่องยังจำเป็นไหม?
หลังทำเลเซอร์หรือในผู้ที่ยังไม่มีข้อบ่งชี้ในการรักษา การใส่ถุงน่องทางการแพทย์ (Compression Stocking) ยังมีประโยชน์ในการช่วยลดอาการบวมและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
แต่ควรเข้าใจว่า ถุงน่องช่วยพยุง แต่ไม่สามารถซ่อมแซมลิ้นหลอดเลือดที่รั่วได้
หากหยุดใส่ อาการก็มักจะกลับมาอีก
ดังนั้น หากใส่ถุงน่องแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจอัลตราซาวด์หาต้นเหตุ
สรุปให้เข้าใจง่าย
| คำถาม | คำตอบสั้น ๆ |
| “ลิ้นหลอดเลือดรั่ว” หมายถึงอะไร? | ลิ้นในหลอดเลือดดำปิดไม่สนิท ทำให้เลือดไหลย้อนกลับลงขา |
| เลือดรั่วออกมาข้างนอกไหม? | ไม่ครับ เลือดคั่งอยู่ “ภายในหลอดเลือด” ทำให้ขาบวม |
| ต้องรักษาทุกคนไหม? | ไม่จำเป็น ต้องดูว่ามีอาการ เช่น ปวด หนัก บวม หรือผิวเปลี่ยนสีหรือไม่ |
| วิธีรักษาที่ได้ผลคืออะไร? | การทำเลเซอร์ปิดหลอดเลือดที่รั่ว เป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดี |
ข้อคิดสุดท้ายจากแพทย์
“คำว่าลิ้นหลอดเลือดรั่วไม่ได้หมายความว่าเลือดไหลออกนอกเส้น
แต่หมายถึงระบบการไหลเวียนเสียสมดุล ทำให้เลือดคั่งอยู่ในขา”
การรักษาในยุคปัจจุบันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เพียงตรวจอัลตราซาวด์เพื่อหาจุดรั่ว และรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
คุณก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ เดินได้ ทำงานได้ โดยไม่ต้องพักฟื้นยาว
เส้นเลือดขอดไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้ารู้เท่าทันและรักษาได้ถูกจุด
